ส่องคีย์แมน 24 ทีมศึกยูโร 2020 (ตอนที่ 3)
ยูโร 2020
คีย์แมนอีก 6 คนต่อมากถือเป็นผู้เล่นสำคัญประจำทีมบ้านเกิดของตัวเองอยู่แล้ว และบางคนก็เป็นกำลังหลักตลอดหลาย 10 ปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ ซึ่งน่าสนใจว่า EUFA EURO 2020 ครั้งนี้ พวกเขาจะพาทีมไปได้ไกลเพียงใด
13. มาซิโดเนียเหนือ (โกรัน ปานเดฟ สังกัด เจนัว) คีย์แมนอีก
หัวหอกจอมเก๋าจะอายุ 38 ปี ในเดือนกรกฎาคมนี้แล้ว และในปีนี้มันปีที่ 23 ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพของเจ้าตัวอีกด้วย ซึ่งถึงแม้จะอายุมากแต่ ปานเดฟ ก็ยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญของต้นสังกัดอย่าง เจนัว และบ้านเกิดอย่าง มาซิโดเนียเหนือ
ปานเดฟ ลงสนามให้กับ มาซิโดเนียเหนือ ไปมากกว่า 120 เกมแล้ว และเจ้าตัวสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก แถมยังขยับลงมาเล่นในแดนกลางได้เช่นกัน โดยประสบการณ์ของเขานั้น จะช่วยให้บ้านเกิดได้ลุ้นเข้ารอบลึกๆอยู่ไม่น้อย
14. โปแลนด์ (โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ สังกัด บาเยิร์น มิวนิค)
แม้ในฤดูกาลนี้เขาจะบาดเจ็บไปหนึ่งเดือนแต่หลังจากกลับมาฟิตสมบูรณ์ เลวานดอฟสกี้ ก็ระเบิดฟอร์มเก่งได้อย่างสุดยอดด้วยการซัดไปถึง 41 ประตูให้กับ บาเยิร์น ในศึกบุนเดสลีกาฤดูกาลล่าสุด ซึ่งเป็นการทำลายสถิติของ แกรด์ มุลเลอร์ ตำนานดาวยิงทีมชาติเยอรมันด้วย
ในวัย 32 ปี เลวานดอฟสกี้ ยังคงมีสภาพร่างกายที่สุดยอด และฟิตสมบูรณ์อย่างมาก โดยฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวแทบไม่ตกลงไปเลยตลอด 4-5 ฤดูกาลที่ผ่านมา และเขาจะเป็นผู้เล่นคนสำคัญในแนวรุกพา โปแลนด์ ลุยศึกยูโรหนนี้
15. โปรตุเกส (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สังกัด ยูเวนตุส)
ไม่มีใครกล้าปฏิเสธเลยว่า โรนัลโด้ เป็นสุดยอดนักเตะของโลกในทศวรรษที่ผ่านมา และเป็นผู้เล่นที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในวงการลูกหนัง รวมถึงยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมชาติโปรตุเกสอีกด้วยหลังจากที่ห่อนหน้านี้เขาพา “ฝอยทอง” คว้าแชมป์ยูโร 2016 มาแล้ว
แม้จะมีอายุถึง 36 ปี แต่ โรนัลโด้ ก็แทบไม่ได้ฟอร์มตกลงไปเลย เขายังแข็งแกร่ง และเฉียบคมเสมอหน้าปากประตู รวมทั้งยังมีความกระหายในการไล่ล่าความสำเร็จอย่างเต็มเปี่ยม
16. รัสเซีย (อาร์เต็ม ซูบา สังกัด เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก)
กองหน้าร่างยักษ์แห่งทัพ “หมีขาว” รายนี้เป็นตัวความหวังในแนวรุกของทีม เขามีความสูงถึง 197 ซม. และมีร่างกายที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งแต่ละครั้งที่เล่นลูกกลางอากาศเจ้าตัวมักจะเอาชนะคู่แข่งได้อยู่เสมอ และซีซั่นล่าสุดนั้น เขาซัดให้กับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ไปถึง 22 ประตู
ก่อนหน้านี้ ดาวยิงวัย 32 ปี เคยถูกตัดออกจากทีมหลังล่อยคลิปลามกหลุดออกมาบนสื่อสังคมออนไลน์ แต่หลังจากออกมาขอโทษแล้ว สตานิสลาส เชอร์เชเซอฟ กุนซือทีมชาติรัสเซีย จึงเรียกตัวกลับมาติดทีมอีกครั้ง และ ซูบา ก็พร้อมจะพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนได้เห็น
17. สก็อตแลนด์ (แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน สังกัด ลิเวอร์พูล)
ยอดคนเหล็กแห่งสก็อตแลนด์ โรเบิร์ตสัน ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับ ลิเวอร์พูล ไปมากถึง 59 เกมจาก 61 เกมหลังสุดรวมทุกรายการของ “หงส์แดง” และเจ้าตัวแทบไม่แสดงอาการอ่อนล้าให้เห็นเลย ซึ่งเห็นได้ชัดว่า เขาฟิตเพียงใด
แบ็คซ้ายวัย 27 ปี เป็นผู้เล่นเลือดนักสู้เต็มเปี่ยม เขาไม่เคยลดละในการไล่ล่าบอลคืนมา และยังเติมเกมบุกทันทีเมื่อมีโอกาส โดยตลอด 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมาภายใต้การทำงานร่วมกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล นั้น โรเบิร์ตสัน พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นแบ็คแนวหน้าของยุโรปไปเรียบร้อยแล้ว
18. สโลวาเกีย (มิลาน สคริเนียร์ สังกัด อินเตอร์ มิลาน) คีย์แมนอีก
สคริเนียร์ เป็นหัวใจสำคัญในแผงหลังของ สโลวาเกีย และเป็นกุญแจสำคัญในการพา อินเตอร์ คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา มาครองได้สำเร็จเมื่อฤดูกาลล่าสุด
เซ็นเตอร์แบ็ควัย 26 ปี กำลังเข้าสู่ช่วงที่ดีที่สุดในอาชีพของตัวเองแล้ว เขามีคุณสมบัติครบทุกอย่างที่กองหลังตัวกลางควรมี และจากฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยของเขานั้น ทำให้ สคริเนียร์ กำลังได้รับความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป ซึ่งเจ้าตัวอาจอำลา อินเตอร์ หลังจบยูโรครั้งนี้ก็เป็นได้
