May 30, 2024

บทวิเคราะห์ บอลถ้วยวันนี้ ฟุตบอลโลก ยูฟ่าแชมเปี้ยน ยูโรปาลีก

UFA ข่าวสารวงการฟุตบอลวันนี้ ฟุตบอลโลก ฟีฟ่าเวิร์ด์คัพ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยูโรปา ตารางบอลถ้วย โปรแกรมการแข่งขัน เจาะลึกก่อนและหลังเกมพร้อมผลบอล

5 อันดับทีมแชมป์ยุโรปที่ฟอร์มในลีกสุดห่วย

5 ทีมต่อไปนี้แสดงให้คอบอลได้เห็นว่า ถึงแม้ผลงานในประเทศของพวกเขาจะย่ำแย่แค่ไหน แต่ก็ยังสามารถทำเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าถ้วยรางวัลระดับนานาชาติอย่าง แชมป์ยุโรป มาครองได้อยา่งน่าเหลือเชื่อ
ฟุตบอลยุโรป

แชมป์ยุโรป

บรรดาทีม แชมป์ยุโรป ในวงการฟุตบอลสร้างเหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้นได้เสมอไม่ว่าจะเป็นผลการแข่งขันที่คาดไม่ถึงด้วยการคว้าถ้วยรายการต่างๆอาทิ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า คัพ หรือ ยูโรป้า ลีก ของหลายสโมสร แต่ผลงานในลีกของพวกเขากลับไม่ดีเท่าที่ควร

5 ทีมต่อไปนี้แสดงให้คอบอลได้เห็นว่า ถึงแม้ผลงานในประเทศของพวกเขาจะย่ำแย่แค่ไหน แต่ก็ยังสามารถทำเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าถ้วยรางวัลระดับนานาชาติอย่าง แชมป์ยุโรป มาครองได้อยา่งน่าเหลือเชื่อ

แชมป์ยุโรป

5. ชาลเก้ (1996/1977) แชมป์ยุโรป

ศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ในซีซั่น 1996/1997 เป็นฤดูกาลที่ลืมไม่ลงสำหรับ ชาลเก้ หลังจากที่พวกเขามีคะแนนตามหลังทีมแชมป์อย่าง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค มากถึง 28 คะแนน นอกจากนี้พลพรรค “ราชันสีน้ำเงิน” ยังทำผลงานในลีกได้อย่างย่ำแย่ด้วยการจบอันดับที่ 12 ในตารางคะแนน

อย่างไรก็ตาม ชาลเก้ ลืมความผิดหวังในลีก และทำผลงานได้ดีในศึกฟุตบอลลุ้น แชมป์ยุโรป ด้วยการเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน ภายใต้การนำทัพของกุนซือ รอย ฮ็อดจ์สัน ในการดวลจุดโทษศึกยูฟ่า คัพ รอบชิงชนะเลิศ 4-1 หลังจากสกอร์มรวมทั้ง 2 เลกเสมอกัน 1-1

แชมป์ยุโรป

4. อินเตอร์ มิลาน (1993/1994)

ในประวัติศาสตร์ของ อินเตอร์ มิลาน นั้น พวกเขาไม่เคยตกชั้นจากศึกกัลโช่ เซเรีย อา เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ในปี 1994 พลพรรค “งูใหญ่” เกือบต้องตกชั้นไปเล่นในเซเรีย บี แล้วหลังจบฤดูกาลด้วยการมีแต้มเหนือโซนตกชั้นเพียง 1 คะแนนเท่านั้น

ถึงแม้ฟอร์มการเล่นในลีกจะเป็นเหมือนหายนะ แต่ผลงานในฟุตบอลยุโรปของ อินเตอร์ นั้น สุดยอดอย่างไม่น่าเชื่อหลังจากเอาชนะ ออสเตรีย ซัลซ์บวร์ก ในศึกฟุตบอลยูฟ่า คัพ รอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 2-0 จากการแข่งขันทั้ง 2 เลก โดย “งูใหญ่” ยิงไปเกมละ 1 ประตูจาก นิโกลา แบร์ติ ดาวเตะชาวอิตาลี และ วิม ยองค์ กองกลางชาวดัตช์

สเปอร์ส

3. ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ (1983/1984)

ความสำเร็จในศึกยูฟ่า คัพ ของ สเปอร์ส เมื่อปี 1984 มาจากฤดูกาลที่แสนจะธรรมดาในลีกสูงสุดของอังกฤษ ซึ่งพลพรรค “ไก่เดือยทอง” จบซีซั่นด้วยอันดับ 8 และมีแต้มตามหลังทีมแชมป์อย่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล มากถึง 19 คะแนน

ในเกมชิงดำศึกฟุตบอลยูฟ่า คัพ ปีดังกล่าว สเปอร์ส เฉือนเอาชนะ อันเดอร์เลชท์ จากเบลเยียม จากการยิงจุดโทษด้วยสกอร์ 4-3 หลังจากเสมอกันมาใน 2 เลก 2-2

แชมป์ยุโรป

2. ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต (1979/1980)

ย้อนกลับไปในยุคดังกล่าว บาเยิร์น มิวนิค และ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เป็น 2 สโมสรที่ครองอำนาจในวงการลูกหนังเมืองเบียร์เลยก็ว่าได้ และในปี 1980 “เสือใต้” ก็คว้าแชมป์ลีกไปตามคาดโดยทำแต้มทิ่งห่าง แฟรงค์เฟิร์ต ทีมในอันดับ 9 มากถึง 18 แต้ม

อย่างไรก็ตาม แฟรงค์เฟิร์ต หักปากกาเซียนด้วยการคว้า แชมป์ยุโรป อย่าง ยูฟ่า คัพ ในฤดูกาลดังกล่าวหลังพลิอกล็อกเอาชนะ บาเยิร์น ในรอบรองฯ และ เฉือนเอาชนะ มึนเช่นกลัดบัค ในรอบชิงฯด้วยอเวย์โกล์หลังจากเสมอกัน 3-3

แชมป์ยุโรป

1. เรอัล มาดริด (1955/1956) แชมป์ยุโรป

ย้อนกลับไปในปี 1955 มันเป็นการเข้าชิงดำครั้งแรกของ มาดริด หลังจากเข้าไปพบกับ แรงส์ จากฝรั่งเศส ในศึกฟุตบอล ยูโรเปี้ยน คลับ แชมเปี้ยนชิพ ทั้งที่ผลงานในลีกของ “ราชันชุดขาว” จบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 มีแต้มตามหลังแชมป์อย่าง แอธเลติก บิลเบา 10 คะแนน และตามหลังทีมอันดับ 2 อย่าง บาร์เซโลน่า 9 คะแนน

อย่างไรก็ตาม ในเกมนัดชิงฯฟุตบอลยุโรป ที่สนาม พาร์ค เด  แพรงส์ ที่เมืองน้ำหอมนั้น มาดริด ระเบิดฟอร์มเอาชนะ แรงส์ ไปอย่างสุดมันส์ 4-3 โดยได้ประตูจาก อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน 1 ประตู เฮคเตอร์ รียาล 2 ประตู และ มาร์ควิโตส 1 ประตู

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *