มาริโอ มานด์ซูคิช โคตรแข้งอันเดอร์เรต

มาริโอ มานด์ซูคิช กองหน้าชาวโครเอเชีย ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ถูกประเมินค่าต่ำเกินไปใน วงการฟุตบอลต่างประเทศ ยุคปัจจุบัน และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาอดีตดาวยิง บาเยิร์น มิวนิค, แอตเลติโก มาดริด และ ยูเวนตุส ประกาศแขวนสตั๊ดเรียบร้อยแล้วในวัย 35 ปี

ตลอดเส้นทางอาชีพของของเขานั้น มานด์ซูคิช ประสบความสำเร็จมากมาย และเจ้าตัวก็เพิ่งประกาศอำลาวงการฟุตบอลด้วยการเขียนข้อความผ่านทาง Instagram พร้อมกับรูปถ่ายของรองเท้าฟุตบอลคู่แรกที่เจ้าตัวเคยใส่เมื่อตอนเป็นเด็ก

มาริโอ มานด์ซูคิช กองหน้าชาวโครเอเชีย กล่าวอำลาวงการลูกหนัง

อดีตศูนย์หน้าทีมชาติโครเอเชีย ระบุว่า “ถึง มาริโอ ตัวน้อย เมื่อนายสวมรองเท้าคู่นี้เป็นครั้งแรก นายไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า นายจะได้สัมผัสกับอะไรในวงการฟุตบอล ไม่มีใครคิดว่า นายจะทำประตูได้อย่างมากมาย นายจะได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกับสโมสรที่ใหญ่ที่สุด และเป็นตัวแทนประเทศของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ”

“นายจะช่วยเขียนประวัติศาสตร์กีฬาโครเอเชีย นายจะประสบความสำเร็จเพราะจะมีคนดีๆ อยู่รอบตัวไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทีม โค้ช แฟน ๆ และครอบครัว เอเย่นต์ และเพื่อน ๆ ที่จะอยู่เคียงข้างนายเสมอ และนายจะรู้สึกขอบคุณพวกเขาตลอดไป!”

“เหนือสิ่งอื่นใด นายจะประสบความสำเร็จ เพราะนายจะทุ่มเทสุดกำลังในท้ายที่สุด นั่นคือสิ่งที่นายจะภูมิใจที่สุด นายจะต้องเสียสละมาก แต่นายจะรู้ว่ามันคุ้มค่าเพราะทั้งหมดมันเป็นช่วงเวลาที่น่าอัศจรรย์ที่สถุดในชีวิต”

โพสต์ดังกล่าวของ มานด์ซูคิช ได้รับการตอบรับจากดาราดังหลายคน และอดีตเพื่อนร่วมทีม ยูเวนตุส อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกทีมขาติโปรตุเกสด้วย ซึ่งพวกเขาทั้งคู่เคยเล่นร่วมกันในทัพ “เจ้าม้าลาย” เป็นเวลา 1 ฤดูกาล

ประสบความสำเร็จมากมาย

ตลอดระยะเวลา 17 ปี ในอาชีพนักฟุตบอลของ มานด์ซูคิช นั้น เขาประสบความสำเร็จอย่างมากมายด้วยการคว้าแชมป์ลีก 10 สมัย กับอดีตต้นสังกัดเก่าอย่าง บาเยิร์น, และ ยูเวนตุส รวมไปถึง ฟุตบอลถ้วยต่างๆมาหถึง 7 รายการ และถ้วยใหญ่ของยุโรปอยา่ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย รวมทั้งทำประตูตลอดอาชีพไปมากถึง 228 ประตู

นอกจากนี้ อดีตหัวหอก บาเยิร์น, แอตฯ มาดริด และ ยูเวนตุส ยังครองตำแหน่งดาวซัลโวร่วมในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2012 ด้วย และที่หลายคนไม่ลืมคือ เขาเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงเข้าประตูตัวเอง และยิงประตูคู่แข่งในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเมี่อปี 2018 ในเกมกับฝรั่งเศส

ขณะเดียวกัน มานด์ซูคิช ยังแสดงความขอบคุณต่อเพื่อนร่วมทีม โค้ช และแฟน ๆ ที่สนับสนุนเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และการเสียสละที่ทำ รวมถึงยังพูดถึงความภาคภูมิใจของเขาในช่วงเวลาที่น่าอัศจรรย์ทั้งหมด

อดีตศูนย์หน้าพลพรรค “ตราหมากรุก” กล่าวว่า “คุณจะจำช่วงเวลาที่ต้องรีไทร์ เก็บรองเท้าสตั๊ดไว้ในตู้ และคุณจะไม่เสียใจ ฟุตบอลจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณเสมอ แต่คุณจะตั้งตารอบทบาทใหม่ในอนาคตต่อไป”

ช่วงเวลาที่น่าจดจำของ มาริโอ มานด์ซูคิช กองหน้าชาวโครเอเชีย

มานด์ซูคิช ทำประสำคัญได้มากมายตลอดอาชีพของเขา และหนึ่งในประตูที่น่าจดจำที่สุดของเจ้าตัวคือ การยิงในช่วงต่อเวลาพิเศษช่วยให้ โคเอรเชีย โค่น อังกฤษ ในรอบรองชนะเลิศศึกฟุตบอลโลก 2018 พร้อมกับเข้าไปชิงฯกับ ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการเช้าชิงดำครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ

มานด์ซูคิช เป็นกองหน้าตัวเป้าร่างใหญ่ที่มีความสูงถึง 190 เซนติเมตร และมีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งมาก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาเป็นคนเชื่องช้า เพราะเจ้าตัวยังเต็มไปด้วยเทคนิค ความเข้าใจแท็คติค ความขยัน กาารทำงานหนัก และจบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาด รวมถึงยังมีความสารพัดประยชน์สามารถขยับไปเล่นทางริมเส้นได้ด้วย ซึ่งทำให้เขาเป็นนักเตะที่สำคัญสำหรับกุนซือหลายๆคนที่เคยร่วมงานมาด้วยทั้งในระดับสโมสร และทีมชาติ

หลังจากได้ยินข่าวการอำลาวงการของ มานด์ซูคิช นั้น ซลัตโก้ ดาลิช โค้ชทีมชาติโครเอเชีย ก็กล่าว ขอบคุณ มานด์ซูคิช ที่รับใช้ชาติมาหลาย โดยระบุว่า “มาริโอ เป็นนักสู้ที่ทีมสามารถพึ่งพาได้อยู่เสมอ เขาเป็นผู้เล่นสำหรับเกมใหญ่ๆ และเป็นคนที่กระหายชัยชนะอย่างมาก”

อดีตกองหน้าทีมชาติโครเอเชีย ยังเป็นผู้เล่นที่มีความเป็นมืออาชีพอย่างสูง เขาได้รับความเคารพจากเพื่อนร่วมทีม โค้ช บุคคลรอบข้าง และแฟนบอลอยู่เสมอ ซึ่งแฟนๆจะรักเขาในความเก่งกาจ และการปฏิบัติตัวเมื่ออยู่นอกสนาม

มานด์ซูคิช อาจไม่ใช่กองหน้าที่ถูกพูดถึงมากนักในศตวรรษที่ 21 หากเทียบกับดาวยิงรุ่นเดียวกันคนอื่นๆ แม้สถิติการถล่มประตูของเขาจะมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่นั่นก็เป็นเพราะ เขาเป็นคนชอบเก็บตัว และไม่ชอบเปิดเผยตัวต่อสาธารณชนมากนัก 

ในวัย 35 ปี มานด์ซูคิช เดินทางมาถึงจุดสูงสุดของอาชีพนักฟุตบอลแล้ว เขาประสบความสำเร็จมาทั้งหมดทั้งในระดับนานาชาติ และระดับสโมสร ซึ่งชื่อของ มาริโอ มานด์ซูคิช จะยังคงอยู่ในความทรงจำของเหล่าแฟนบอลไปอีกนาน