ตัดเกรดเสริมทัพทีมดังยุโรป

ตลาดนักเตะในซัมเมอร์นี้ของบรรดา สโมสรยักษ์ใหญ่ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ค่อนข้างน่าเซอร์ไพรส์ไม่น้อยหลังจากผ่านช่วงการระบาดใหญ่ของ COVID-19 เกือบ 18 เดือนที่ผานมานั้น หลายคนคิดว่า การย้ายทีมของแข้งบิ๊กเนมคงเป็นไปได้น้อยมากๆ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แฟนบอลหลายคนไม่คาดคิดมาก่อนเกิดขึ้นในตลาดรอบนี้ไม่ว่าจะเป็นการได้เห็นยอดนักเตะแห่งยุคอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า ไปร่วมทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อำลา ยูเวนตุส หวนกลับไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง

หลังจากตลาดซื้อ-ขายปิดตัวลงไปเรียบนร้อยแล้ว แต่ละทีมก็พร้อมสำหรับทำศึกฤดูกาลใหม่ และนี่คือ การวิเคราะห์คะแนนในการเสริมทัพของทีมดังทั่วยุโรป

1.ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (10/10) สโมสรยักษ์ใหญ่ ทีมแรก

เปแอสเช ซึ่งมี นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ นักธุรกิจชาวกาตาร์เป็นเจ้าของสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดของฝรั่งเศสดูแลอยู่นั้น เสริมทัพดึงผู้เล่นใหม่เข้ามาอย่างน่าตื่นเต้น นอจากนี้ พวกเขายังได้นักเตะที่ดีที่สุดในโลกอย่าง เมสซี่ มาร่วมทีมแบบฟรีๆด้วย

ขณะเดียวกัน เปแอสเช ยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับทุกตำแหน่งบนสนามไล่ตั่งแต่นายทวารที่คว้าตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า มาจาก เอซี มิลาน แนวรับคว้าตัว 2 ฟูลแบ็คอย่าง นูโน่ เมนเดส และ อัชราฟ ฮาคิมี มาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน และ อินเตอร์ มิลาน รวมถึง เซอร์คิโอ รามอส กองหลังจอมเก๋ามาจาก เรอัล มาดริด

แดนกลาง เปแอสเช ได้ตัว จินี่ ไวจ์นัลดุม ห้องเครื่องชาวดัตช์มาจาก ลิเวอร์พูล และที่สำคัญพวกเขายังสามารถเก็บ คิเลียน เอ็มบั๊บเป้ ยอดกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสไว้กับทีมต่อไปได้

2. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (10/10)

แมนฯ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดนักเตะรอบนี้หลังคว้าตัว จาดอน ซานโช่ มาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, ราฟาเอล วาราน มาจาก มาดริด และสิ่งที่สุดยอดไปกว่านั้นคือ ดึงตัว โรนัลโด้ กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง

การกลับมาของ โรนัลโด้ จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในแนวรุกให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในทันที นอกจากนี้ “ปีศาจแดง” ยังขาย แดเนียล เจมส์ ปีกตัวสำรองชาวเวลส์ให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวถึง 30 ล้านปอนด์อีกด้วย

3. เชลซี (9/10)

เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน มีเป้าหมายหลักใสนปีนี้คือ การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ หลังจากที่ในฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขาคว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่

ทูเคิ่ล จัดการแก้ปัญหาปืนฝีดของ เชลซี ด้วยการทุ่มเงิน 97 ล้านปอนด์ดึงตัว โรเมลู ลูกากู หัวหอกทีมชาติเบลเยียม จาก อินเตอร์ กลับมาล่าตาข่ายให้ “สิงโตน้ำเงินคราม” อีกครั้ง แถมยังยืม ซาอูล ญีเกซ มิดฟิลด์ของ แอตเลติโก มาดริด มาในวันเดดไลน์ด้วย แต่น่าเสียดายที่พวกเขาพลาดตัว ชูลส์ กุนเด้ กองหลังของ เซบีย่า

ขณะเดียวกัน เชลซี ยังขายนักเตะตัวสำรองอย่าง แทมมี่ อับราฮัม หัวหอกดาวรุ่งชาวอังกฤษ และ เคิร์ต ซูม่า กองหลังชาวฝรั่งเศส ให้กับ โรม่า และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวรวมกันเกือบ 70 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

4. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (8/10)

เป็ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ แมนฯ ซิตี้ มองหากองหน้าคุณภาพมาแทนที่ เซอร์คิโอ อเกวโร่ มาตลอดทั้งซัมเมอร์ ซึ่งเป้าหมายหลักอย่าง แฮร์รี่ เคน ดาวยิง ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ ก็ประกาศยืนยันขออยู่กับ “ไก่เดือยทอง” ต่อไป

อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี้ ยังสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการฟุตบอลอังกฤษหลังทุ่มเงิน 100 ล้านปอนด์ คว้าตัว แจ็ค กรีลิช เพลย์เมคเกอร์ แอสตัน วิลล่า มาร่วมทีมได้สำเร็จ

5. ลิเวอร์พูล (7/10) สโมสรยักษ์ใหญ่ อังกฤษ

ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน เปิดฉากเสริมทัพอย่างรวดเร็วในซัมเมอร์นี้หลังคว้า อิบราฮิมา โกนาเต้ กองหลังชาวฝรั่งเศส มาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 36 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นนักเตะใหม่รายเดียวของ “หงส์แดง” ในตลาดรอบนี้

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล เก็บคีย์แมนหลายๆคนไว้กับทีมได้สำเร็จหลังต่อสัญญาฉบับใหม่กับ ฟาบินโญ่, อลิสซอน เบ็คเกอร์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เวอร์จิล ฟาน ไดจค์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไปเรียบร้อยแล้ว

6. เรอัล มาดริด (6/10)

มันเป็นตลาดนักเตะที่ค่อนข้างเงียบเหงาของ มาดริด ในรอบหลายๆปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ โดยพลพรรค “ราชันชุดขาว” ภายใต้การนำของ คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน คว้าตัว เอดูอาร์โด้ คามาแว็งก้า มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 18 ปี ของ แรนส์ มาเสริมทัพเพียงรายเดียวเท่านั้น

นอกจากนี้ มาดริด ยังเสีย 2 กำลังสำคัญในแนวรับอย่าง รามอส และ วาราน ให้กับ เปแอสเช และ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกด้วย

7. อินเตอร์ มิลาน (5/10) สโมสรยักษ์ใหญ่ อิตาลี

อินเตอร์ ต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินพอสมควร และการสูญเสียครั้งใหญ่ของพวกเขาในซัมเมอร์นี้คือการที่ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือที่พาสโมสรคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา เมื่อฤดูกาลที่แล้วประกาศอำลาทีม และต้องเสีย 2 คีย์แมนอย่าง ลูกากู กับ ฮาคิมี่

อย่างไรก็ตาม อินเตอร์ ยังได้นักเตะใหม่มาเสริมทัพหลายรายประกอบด้วย เอดิน เชโก้, เดนเซล ดัมฟรีส์, โจอาควิน คอร์เรอา และ ฮาคาน คัลฮาโนกลู มาร่วมทีมได้สำเร็จ

8. บาร์เซโลน่า (4/10) สโมสรยักษ์ใหญ่ ทีมสุดท้าย

บาร์เซโลน่า มีหนี้สินจำนวนมหาศาล 1.35 พันล้านยูโร และมีความไม่มั่นคงภายในสโมสร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขาสูญเสียนักเตะที่ดีที่สุดในทีมอย่าง เมสซี่ ไปให้กับ เปแอสเช แบบไม่มีค่าตัว และก็ปล่อยนักเตะบิ๊กเนมอย่าง อองตวน กรีซมันน์ กลับไปให้ แอตเลติโก มาดริด

ขณะเดียวกัน แม้จะได้นักเตะใหม่อย่าง อเกวโร่, เมมฟิส เดอปาย, ลุค เดอ ยอง และ เอริค การ์เซีย เข้ามาแต่แฟนบอล “เจ้าบุญทุ่ม” ก็คิดว่านักเตะเหล่านั้นทดแทน เมสซี่ ไม่ได้ นอกจากนี้ พวกเขายังล้มเหลวในการปล่อยตัวนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมอย่าง ซามูเอล อุมติตี้, คูตินโญ่ และ มาราเล็ม ปานิช อีกด้วย