ส่องคีย์แมน 24 ทีมศึกยูโร 2020 (ตอนที่ 4)
ฟุตบอลยูโร
คีย์แมน6 รายสุดท้าย จากอีก 6 ชาติที่เหลือจากศึก EUFA EURO 2020 ครั้งนี้ น่าจับตามองผลงานของพวกเขาเป็นอย่างมากว่า จะสามารถพาทีมบ้านเกิดทะลุเข้าไปสู่รอบลึกๆได้หรือไม่
19. สเปน (ติอาโก อัลกันตาร่า สังกัด ลิเวอร์พูล) คีย์แมน6
ติอาโก้ ไม่ใช่นักเตะจอมอึดที่สามารถลกรำศึกหนักได้ตลอดทั้งฤดูกาล เขาลงเล่นในเกมลีกมากกว่า 20 เกมต่อหนึ่งฤดูกาลเพียง 2 ครั้งตลอดอาชีพว่าจะเป็นกับทั้ง บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค และล่าสุดกับ ลิเวอร์พูล
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ลงสนาม มิดฟิลด์วัย 29 ปี สร้างความแตกต่างได้เสมอ เขาผ่านบอลแม่นยำทั้งสั้น-ยาว ควบคุมจังหวะเกม ตัดบอล และสร้างสรรค์เกมได้อย่างยอดเยี่ยม และแน่นอนว่า ความครบเครื่องของเขานั้น จะช่วยให้ สเปน มีลุ้นเข้าสู่รอบลึกๆเช่นกัน
20. สวีเดน (อเล็กซานเดอร์ อิซาค สังกัด เรอัล โซเซียดาด)
หลังจาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยอดดาวยิงจอมเก๋าต้องพลาดยูโรหนนี้ เนื่องจากเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน อิซาค ก็ต้องคือคนที่รับภาระในการทำประตูให้กับ สวีเดน และในฐานะทายาทของ “อิบรา” เขาต้องเจอแรงกดดันอย่างมหาศาล
หัวหอกวัย 21 ปี มีปีที่ยอดเยี่ยมในอาชีพของตัวเองอยู่มากทีเดียวหลังซัดให้กับ โซเซียดาด ถึง 17 ประตูในศึกลา ลีกา ฤดูกาลที่ผ่านมา และน่าสนใจว่า เขาจะทำผลงานกับ สวีเดน ได้ยอดเยี่ยมเพียงใด
21. สวิตเซอร์แลนด์ (เรโม ฟรอยเลอร์ สังกัด อตาลันต้า)
ฟรอยเลอร์ เป็นเหมือนกลไกลสำคัญในแดนกลางของ อตาลันต้า เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เขาเป็นมิดฟิลด์จอมขยันที่สามารถวิ่งได้ตลอดทั้งเกม และไม่ว่าจะเป็นเกมรุกหรือเกมรับ เขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเสมอ
กองกลางวัย 29 ปี เป็นกุญแจสำคัญของ สวิตเซอร์แลนด์ ชุดนี้ เขายืนปักหลักบัญชาเกมแดนกลางร่วมกับ กรานิต ชาก้า มิดฟิลด์ อาร์เซน่อล ได้อย่างเข้าขาลงตัว และทำให้ขุนพล “แดนนาฬิกา” มีเกมกลางสนามที่สมดุลอย่างมาก
22. ตุรกี (บูรัค ยิลมาซ สังกัด ลีลล์)
ลีลล์ ช็อควงการฟุตบอลฝรั่งเศสด้วยการคว้าแชมป์ลีก เอิง ไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วแบบสุดเซอร์ไพรส์ และแน่นอนว่า ยิลมาซ คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่พาพลพรรค “ตราหมา” ประสบความสำเร็จหลังซัดในลีกไปถึง 16 ประตู พร้อมกับเป็นดาวซัลโวของสโมสร
หัวหอกจอมเก๋าวัย 35 ปี ยังคงไว้ลายความเฉียบคมเสมอ เขาเป็นนักล่าประตูขนานแท้ และเป็นกองหน้าที่ใช้โอกาสไม่เปลือง ซึ่งตุรกีต้องอาศัยประสบการณ์ของ ยิลมาซ อยู่พอสมควรในการลุยศึกยุโร 2020
23. ยูเครน (โอเลซ์ซานดร์ ซินเชนโก สังกัด แมนเชสเตอร์ซิตี้)
แฟนบอลพรีเมียร์ลีกจะรู้จัก ซินเชนโก ในฐานะแบ็คซ้ายของ แมนฯ ซิตี้ ภายใต้การนำของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โค้ชชาวสเปน แต่สำหรับยูเครน เขาเล่นเป็นกองกลางตัวรุกคอยสร้างสรรค์เกมในระบ 4-3-3 ของเทรนเนอร์ อังเดร เชฟเชนโก้
แม้จะต้องปรับบทบาทระหว่างสโมสรกับทีมชาติแต่ ซินเชนโก ก็สามารถปรับตัวได้อย่างยอดเยี่ยม และทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี และในวัยเพียง 24 ปี เขายังสามารถพัฒนาไปได้มากกว่านี้อีก
24. เวลส์ (แกเร็ธ เบล สังกัด เรอัล มาดริด) คีย์แมน6
มันคงไม่ยุติธรรมนักหากจะบอกว่า เวลส์ เป็นทีม วัน แมน โชว์ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเพียงว่า เบล คือหนึ่งในผู้เล่นทรงอิทธิพลที่สุดของพลพรรค “มังกรแดง” ตลอดทศวรรษที่ผ่านมาจถึง ณ ปัจจุบัน
ในช่วงหลังแม้เส้นทางอาชีพของ เบล กับ เรอัล มาดริด ดูจะไม่สวยงามนักหลังจากที่โดนปัญหารบกวน และฟอร์มตก แต่ดาวเตะวัน 31 ปี ก็ยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ เวลส์ อยู่เสมอ และเจ้าตัวก็ยังคอยแบกทีมแม้ตัวเองจะสภาพร่างกายไม่ฟิตก็ตาม
